Specials
Don’t Miss Out
ไม่ใช่รถมอเตอร์ไซต์ทุกยี่ห้อที่จะเป็นแบบรถมอเตอร์ไซต์ Harley-Davidson ได้มันมีเสน่ห์แม้กระทั่งตอนจอด มันสามารถเป็นเฟอร์นิเจอร์จอดโชว์ในบ้านได้คุณสามารถนั่งดูยืนดูได้ทั้งวัน ด้วยประวัติความสวยงามโดยเฉพาะเสียงยิ่งทำให้ผู้ชายหลายๆคนนั้นฝันถึง ซึ่งมายุคสมัยนี้มันไม่ได้ยึดติดอยู่กับเพียงผู้ชายแล้วผู้หญิงหลายๆคนก็ชื่นชอบและรักที่จะได้สัมผัสและซื้อหามาขับขี่ ในหน้านี้ของเวป BigBoy ผมเลยจะขอเสนอรถในรุ่นต่างๆของ Harley-Davidson และ American Chopper เฉพาะเครื่อง V-Twinโดยจะเริ่มทยอยเอามาลงให้ได้อ่านกัน โดยเริ่มจากรถของตัวผมเองก่อนแล้วจะค่อยๆเอารถท่านอื่นมาลงให้ได้ชมกันครับ
1999 Heritage Softail Classic
สรุป คะแนน 9 เต็ม 10 เป็นรถที่ตอบสนองอารมณ์ในการขี่ได้อย่างมาก เหมือนคุณมีสองคัน
Heritage Softail Classic คันนี้เป็นปี 1999 ซึ่งเป็นตัวสุดท้ายของเครื่อง Evolution 80 Cu.in 1340cc 5 เกียร์ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้เป็นเครื่องยนต์ TwinCam 88 Cu.in 1450cc รุ่น Heritage Softail Classic เป็นรถที่มีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง สามารถแต่งได้หลายรูปแบบอุปกรณ์มาตราฐานมีมาครบเช่น วินชิล เบาะคนซ้อน ที่พิงหลัง กระเป๋าหนังปักด้วยหมุดสแตนเลสและที่เบาะอันหนานุ่มกว่าทุกรุ่นในตระกูล สมัยนั้น รุ่นท๊อปสุดแพงสุดของรุ่นซอฟเทลก็รุ่น เฮอริเทรดนี่เลย ขี่เดินทางไกลด้วยระยะทาง 2-3,000 กิโลสบายๆ ในฟิวส์ Vintage
1997 RoadKing Standard
สรุป คะแนน 7 เต็ม 10 ด้วยรูปลักษณ์ที่ธรรมดาขาดจุดเด่นๆไม่มี ถือได้ว่าเหมาะเป็นรถใช้งานซะมากกว่า
RoadKing Standard คันนี้เป็นปี 1997 เครื่องยนต์ Evolution 80 Cu.in 1340cc 5 เกียร์ และเป็นปีแรกที่ฮาร์เล่ย์ทำระบบจ่ายน้ำมันมาเป็นแบบหัวฉีด ประหยัดน้ำมันกว่าตัวรุ่นคาร์บูเรเตอร์ ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมาฮาร์เล่ย์จะผลิตรถออกมาในแต่ละรุ่นจะมีจำหน่ายทั้งแบบคาร์บูเรเตอร์และแบบหัวฉีด จนไปถึงปี 2005 ฮาร์เล่ย์จึงตัดระบบแบบคาร์บูเรเตอร์ออกทุกรุ่น และจำหน่ายแต่ระบบหัวฉีดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คำว่า RoadKing Standard นั้นคือตัวสตาร์ดเริ่มต้นของรถในตระกูลทัวร์ริ่ง ราคาถูกสุดในชาร์ตจนราคาในตอนนั้นแทบไม่ต่างกันเลยกับ Heritage Softail Classic อุปกรณ์มาตราฐานของรุ่นนี้จะมีวินชิลมาให้ด้วยและกระเป๋าข้างจะเป็นกล่องไฟเบอร์ ตัวนี้เหมาะทั้งในเมืองและเดินทางไกล
2003 Softail Springer 100th Anniversary
สรุป 8 คะแนนเต็ม 10 เป็นรถที่ตลาดต้องการ มีคนรองรับฉะนั้นราคาขายต่อไม่ต้องกังวลส่วนใหญ่รุ่นใครซื้อมาใช้แล้วอยากขาย ขายได้ง่ายที่สำคัญไม่ขาดทุนแน่นอน
Softail Springer คันนี้ปี 2003 ซึ่งเป็นปีที่ฮาร์เล่ย์อายุครบ 100 ปีสัญลักษณ์ของรุ่น 100 ปีที่เห็นชัดๆคือป้ายโลโก้ข้างถังและลายเส้นที่วิ่งรอบคัน คันนี้เป็นเครื่องยนต์ TwinCam 88 Cu.in 1450cc 5 เกียร์ ระะบบจ่ายน้ำมันแบบคาร์บูเรเตอร์ ช่วงหน้าระบบกันสะเทือนแบบสปิงค์ขาไก่ ล้อหน้าเล็กขนาด 21" แต่ถ้าล้อหน้า 16" เป็นเรียกว่า Heritage Springer Softail Classic ราคาค่าตัวในสมัยนั้น หกแสนห้าถึงเจ็ดแสนแต่มาสมัยนี้ราคาค่าตัวขึ้นมาสูงมากๆ มีให้เห็นตั้งแต่ แปดหรือเก้าแสนกันแล้วในตัวล้อหน้า 21" ส่วนตัวล้อหน้า 16" ราคาเกินล้านสองกันไปแล้วครับ ส่วนรถรุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานในเมืองและต่างจังหวัดก็ได้แต่ถ้าไปไกลๆหลายๆวันจะเหนื่อยหน่อย แนะนำไปกลับ 4-500 กิโลก็กำลังดีครับ
2009 RoadKing Classic
สรุป คะแนน 7 เต็ม 10 ด้วยรูปลักษณ์ที่ธรรมดาขาดจุดเด่นๆ ถือได้ว่าเหมาะเป็นรถใช้งานซะมากกว่า
RoadKing Classic คันนี้เป็นเครื่องยนต์ TwinCam 96 Cu.in 1580cc 5 เกียร์ระะบบจ่ายน้ำมันเป็นระบบแบบหัวฉีด ในรถตระกูลทัวร์ริ่งปี 2009 นี้เป็นปีแรกที่เริ่มต้นที่เปลี่ยนเฟรมใหม่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือยางหลังที่ขนาดใหญ่ขึ้นจากขนาด 150 เป็น 180 จนถึงปัจจุบัน คันนี้ RoadKing Classic ราคาจะแพงกว่าตัว RoadKing Standard สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือกระเป๋าข้างจะเป็นแบบกระเป๋าข้างหุ้มด้วยหนังแท้ และล้อจะเป็นแบบซี่ลวด ในรุ่นนี้ใช้ในเมืองก็ได้ออกเดินทางก็ดีนุ่มนวลมีความเป็น Vintage อยู่เต็มๆ วินชิลจะเป็นอุปกรณ์มาตราฐานของรถรุ่นนี้ครับ
2011 RoadGlide Customs
สรุป คะแนน 7.5 เต็ม 10 ด้วยรูปลักษณ์เด่นที่หน้ากาก ขับขี่เบามากเพราะแฮนด์ไปยึดจับที่ โช้ค ถือได้ว่าเหมาะเป็นรถใช้งานซะมากกว่า
RoadGlide Customs คันนี้ขี่ง่ายหน้าเบาเหมือนขี่พวกรถ RoadKing เพราะแฮนด์จะยึดติดที่โช๊คและแฟริ่งก็ยึดติดกับตัวรถไม่เหมือนกับรถพวก Ultra เครื่องยนต์คันนี้เป็นเครื่อง TwinCam 96 Cu.in 1580cc ตัวสุดท้ายก่อนที่ฮาร์เล่ย์จะขยับไปเป็นเครื่อง 103 Cu.in 1695cc 5 เกียร์ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด คันนี้มีระบบ Entertainment มาด้วยคือ วิทยุ ซีดี ครูสคอนโทรลและเบรค ABS ก็มีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตราฐาน ส่วนตัวคิดว่าโช๊คคู่หลังจะสั้นไปหน่อยทำให้รถมีความกระด้างมากช่วงที่วิ่งผ่านรอยต่อของถนนจะรู้สึกสะท้านมาถึงตัว
2007 CVO Ultra Classic Electra Glide
สรุป คะแนน 8.5 เต็ม 10 เป็นรถที่หรูหราเกินกว่าที่จะเอามาใช้งาน ด้วยราคารถที่สูงกว่ารถในรุ่นเดียวกัน ค่าบำรุงรักษาจะมากกว่าคนอื่นๆหน่อย
CVO Ultra Classic Electra Glide เครื่องยนต์ 110 Cu.in 1800cc 5 เกียร์ รถปี 2007 CVO นี้เป็นปีแรกที่ฮาร์เล่ย์ได้เอาเครื่อง 110 Cu.in มาใช้จนถึงฮาร์เล่ย์ที่เป็น CVO ปี 2016 รถรุ่นนี้ถือว่าเป็นรถตัวท๊อปสุดของตารางรถฮาร์เล่ย์ ด้วยราคารุ่นนี้จะสูงสุดแล้วที่ฮาร์เล่ย์ผลิตและทำออกมาขาย รถทุกรุ่นที่ขึ้นชื่อว่า CVO จะเป็นตัวที่ฮาร์เล่ย์แต่งจากโรงงานมาชนิดที่เรียกว่าไม่มีตรงไหนที่จะแต่งเพิ่มได้อีกเลยเพราะมันถูกจัดเต็มมาจะโรงงานอย่างเรียบร้อยแล้วทั้งคัน ชุดสีรถทั้งคันจะแตกต่างจากรถรุ่นธรรมดาและความพิถีพิถันทุกซอกทุกมุมของตัวรถ โครเมี่ยมที่มีความเงามากกว่า ระบบเครื่องเสียงที่ดีกว่าตัวปกติ หรือแม้กระทั่งเบาะหนังคันนี้ใช้หนังวัวแท้ผสมหนังนกกระจอกเทศหุ้มไปถึงกระเป๋าหลังใบที่สาม มีระบบ Central Lock กดปุ่มที่หน้าปัดกระเป๋าข้างทั้งสองใบและกระเป๋าหลังจะล๊อคและปลดล๊อคได้โดยไม่ต้องใช้ลูกกุญแจ เอาเป็นว่าความหรูหราคันนี้เทียบได้กับ Benz S Class หรือ BMW 7 Series เลยทีเดียว
2016 Ultra Limited
สรุป 9 เต็ม 10 รูปโฉมสง่าสวยงามอุปกรณ์มาครบสะดวกสบายในการเดินทางไกลๆ ท่องเที่ยว ข้อเสียคือน้ำหนักตัวรถที่หนักในขณะจอด
Ultra Limited เครื่อง 103 Cu.in หรือ 1690cc 5 เกียร์ รูปโฉมได้อัพเดทให้ทันสมัยขึ้นมาตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันหน้ากากมีช่องอากาศ ฝากระเป๋าเปิดปิดใช้งานสะดวกขึ้นด้วยตัวนี้เป็นตัว Limited จะมีอุปกรณ์ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าตัว Classic ที่เห็นได้ชัดๆคือจอทัชสกรีนที่ใหญ่ขึ้น มีฮีตกริปคือที่อุ่นมือ และระบบระบายความร้อนแบบสองระบบคือแบบอากาศและแบบน้ำที่หล่อให้เครื่องยนต์เย็นขึ้นที่เฉพาะหัวเครื่อง คันนี้สามารถตอบโจทย์ของการเดินทางได้อย่างดีเยี่ยมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกถือได้ว่ามีมาให้ครบ ถ้าคิดว่าตั้งใจและชอบการเดินทางไกลมันต้องรุ่นนี้เลย
2004 Iron Horse Texas Chopper
สรุป 8 เต็ม 10 เป็นรถชอปเปอร์ที่ทำออกมาจำหน่ายขับขี่ได้จริงใช้งานสะดวก เหมาะกับการขี่เล่นในเมืองไม่เหมาะกับการใช้งานอะไรได้เลย
Iron Horse คันนี้เป็นรุ่น Texas Chopper จะมีทำออกมาจำหน่ายด้วยขนาดยาง 240 มม ด้วยเครื่องยนต์ S&S 107 Cu.in หรือประมาณ 1750cc ระะบบกันสะเทือนเป็นแบบ Softail ใช้ขี่ได้จริงเดินทางได้ อัตราเร่งของเครื่อง S&S ตอบสนองได้ดีมากบิดเป็นมา เป็นความแรงที่ออกมาจากโรงงาน
If you don't ride then you don't know. Where I've been and where I'm going. Its all about the freedom of the open road. Open the throttle and roll today.
ถ้าคุณไม่ได้ขี่ คุณจะยังไม่เข้าถึงใจจิตของนักขับขี่คุณจะไม่รู้ว่าพวกเขาคิดพวกเขาเห็นอะไรกัน ทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นมันจะได้รับบนถนนที่เปิดกว้าง จะมัวรออะไรกันล่ะ เปิดคันเร่งแล้วไปกันเลย
2006 BigDog Motorcycle K9
สรุป 8.5 เต็ม 10 รูปโฉมสวยสง่าจอดที่ไหนก็เด่นใช้ขี่เล่นในเมืองได้สบายใช้เดินทางใกล้ๆได้แต่ยังไงๆก็ไม่เหมาะก็การใช้ออกทริป
BigDog คือยี่ห้อของรถคันนี้ K9 คือชื่อรุ่นจุดเด่นของรถคันนี้คือเป็นตัวท๊อป ของไลน์การผลิตราคาแพงสุดของชาร์ต ขนาดยางมาจากโรงงานคือ 300 มิลเครื่องยนต์ S&S 117 Cu.in หรือ 1990cc อัตราเร่งและเสียงเครื่องยนต์ถือว่ามาเต็ม ระบบช่วงล่างเป็นแบบ Softail ขี่ได้จริงใช้งานเหมือน Softail ทั่วไป
2012 Forty Eight 48 Sporter
สรุป 8 เต็ม 10 เป็นรถที่เดินทางไกลต้องใช้ความอดทนสูง ต้องเติมน้ำมันบ่อย กว่ารุ่นอื่นๆ เพราะถังน้ำมันเล็ก
สำหรับปฐมบทของผมกับรถมอไฃค์ Harley Davidson คันแรกในฝัน เจ้า forty eight 48 Sporter 1,200 ปี 2012 เครื่องยนตร์ V-Twin OHV ที่เขย่า ตัวตนของผมออกมา ให้เป็น Biker เจ้า48 ถือว่าเป็นรถที่ตอบโจทย์วัย คะนอง อย่างผมได้ลงตัว โดยฃ่อน ความเก๋าๆ แบบ bobber เอาไว้ครบถ้วน เป็นรถที่สามารถแต่งได้ ตามใจต้องการ ส่วนตัวผม ใส่เบาะเดี่ยว กับกระเป๋าหนังใบเดียว เท่ๆ ความเป็นจิ๋กโก๋ แต่ เจ้า 48 ลำนี้ ก้อเป็นรถในฝันของผู้ชายหลายๆคนไปเช่นกัน --- ขอขอบคุณ คุณคอส ธานุวัฒน์ สินเภตรา สำหรับข้อมูลครับ